Chain of Thought คืออะไร?
Chain of Thought หรือ CoT
คือแนวทางที่ช่วยให้การคิดหรือการแก้ปัญหาถูกแบ่งออกเป็นลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน
หลักการนี้เน้นให้ AI อธิบายกระบวนการคิดอย่างมีโครงสร้าง
ไม่ใช่เพียงแค่ให้คำตอบสุดท้าย
แต่ต้องแสดงเหตุผลและลำดับการคำนวณหรือวิเคราะห์ที่นำไปสู่คำตอบนั้น
องค์ประกอบสำคัญของ Chain of Thought
1. Input: คำถามหรือข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์
2. Reasoning Steps: กระบวนการคิดเป็นขั้นตอน เช่น การแยกปัจจัย
การวิเคราะห์ทางเลือก หรือการคำนวณ
3. Output: ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ทีละขั้นตอน
ที่มาของ Chain of
Thought
หลักการ CoT ถูกนำเสนอในงานวิจัยชื่อ "Chain of Thought Prompting Elicits
Reasoning in Large Language Models" (2022) โดย Jason Wei และทีมวิจัยจาก
Google ซึ่งได้รับการเผยแพร่ใน arXiv (arXiv:2201.11903)
โดยในงานวิจัยนี้ทีมผู้วิจัยแสดงให้เห็นว่า AI ที่ได้รับการกระตุ้นให้คิดแบบ CoT
สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่า AI ที่ให้คำตอบแบบตรงไปตรงมา
ตัวอย่างที่พวกเขาใช้รวมถึงการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ต้องอาศัยลำดับการคำนวณและการให้เหตุผลเชิงตรรกะ
ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากงานวิจัยต้นฉบับที่ arXiv:https://arxiv.org/abs/2201.11903
ตัวอย่างการนำ CoT มาใช้ เช่น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ต้องการลำดับการคำนวณ
หรือการวิเคราะห์ปัญหาทางธุรกิจที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยพร้อมกัน
ตัวอย่างง่าย ๆ การประยุกต์ใช้ Chain of Thought
คำถาม:
คุณเป็นผู้จัดการโรงงานผลิตสินค้าแห่งหนึ่ง ในการผลิตสินค้าต้องใช้เครื่องจักร 3 ชนิดที่ทำงานร่วมกัน:
- เครื่องจักร A ผลิตได้ 50 ชิ้น/ชม.
- เครื่องจักร B ผลิตได้ 30 ชิ้น/ชม.
- เครื่องจักร C ผลิตได้ 20 ชิ้น/ชม.
ข้อจำกัดคือ:
- เครื่องจักรทุกเครื่องต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- ต้องผลิตสินค้าขั้นต่ำ 600 ชิ้นในหนึ่งวัน
คุณจะวางแผนอย่างไรเพื่อให้การผลิตบรรลุเป้าหมายในข้อจำกัดที่กำหนด?
การใช้ Chain of Thought:
Input:
- อัตราการผลิตของเครื่องจักร: A (50 ชิ้น/ชม.), B (30 ชิ้น/ชม.), C (20 ชิ้น/ชม.)
- ระยะเวลาการทำงาน: 8 ชั่วโมง/วัน
- เป้าหมาย: ผลิตสินค้าขั้นต่ำ 600 ชิ้น
Reasoning Steps:
- ขั้นที่ 1: คำนวณความสามารถในการผลิตของเครื่องจักรแต่ละเครื่องใน 8 ชั่วโมง
- A: 50 × 8 = 400 ชิ้น
- B: 30 × 8 = 240 ชิ้น
- C: 20 × 8 = 160 ชิ้น
- ขั้นที่ 2: รวมผลการผลิตจากเครื่องจักรทั้ง 3
- รวม: 400 + 240 + 160 = 800 ชิ้น
- ขั้นที่ 3: เปรียบเทียบกับเป้าหมายขั้นต่ำ (600 ชิ้น)
- ผลการผลิต (800 ชิ้น) เกินกว่าเป้าหมาย 600 ชิ้น
- ขั้นที่ 4: ตรวจสอบว่าเครื่องจักรทุกเครื่องทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงตามข้อกำหนด
- ขั้นที่ 1: คำนวณความสามารถในการผลิตของเครื่องจักรแต่ละเครื่องใน 8 ชั่วโมง
Output:
- ใช้เครื่องจักรทั้ง 3 ชนิดทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- ผลิตได้ 800 ชิ้น ซึ่งบรรลุเป้าหมายขั้นต่ำ
รูปแบบการเขียน
Prompt ด้วยแนวคิด Chain of Thought
ในการเขียน Prompt โดยใช้หลักการ Chain of Thought ควรเน้นให้ AI
แสดงกระบวนการคิดทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน ต่อไปนี้คือรูปแบบตัวอย่าง:
1. ขั้นตอน 1: ระบุคำถามหรือปัญหาให้ชัดเจน
2. ขั้นตอน 2: กระตุ้นให้ AI วิเคราะห์หรืออธิบายคำตอบทีละขั้นตอน
3. ขั้นตอน 3: ขอให้ AI สรุปผลลัพธ์จากกระบวนการคิดที่ได้
ตัวอย่าง Prompt:
"กรุณาช่วยตอบคำถามต่อไปนี้โดยอธิบายกระบวนการคิดทีละขั้นตอน:
คุณมีลูกบอล 3 สี (แดง, น้ำเงิน, เขียว) ถ้าคุณสุ่มหยิบลูกบอล 2 ลูกจากทั้งหมด
ความน่าจะเป็นที่จะได้ลูกบอลสีแดงและน้ำเงินพร้อมกันคือเท่าไร?"
การตอบของ AI:
1. ระบุจำนวนลูกบอลแต่ละสี: สีแดง 1 ลูก, สีน้ำเงิน 1 ลูก, สีเขียว 1 ลูก
2. คำนวณจำนวนวิธีการเลือกหยิบ 2 ลูกจาก 3 ลูกทั้งหมด: C(3,2) = 3 วิธี
3. คำนวณจำนวนวิธีการเลือกหยิบสีแดงและสีน้ำเงินพร้อมกัน: 1 วิธี (สีแดง 1 ลูก
และสีน้ำเงิน 1 ลูก)
4. ความน่าจะเป็น = จำนวนวิธีที่ตรงตามเงื่อนไข / จำนวนวิธีทั้งหมด = 1/3
5. คำตอบ: ความน่าจะเป็นคือ 1/3
ความสำคัญของ
Chain of Thought ต่อการเขียน Prompt
1. เพิ่มความแม่นยำของคำตอบ: CoT ช่วยให้ AI
คิดอย่างมีโครงสร้างและลดโอกาสการให้คำตอบผิดพลาด โดยเฉพาะในปัญหาที่ซับซ้อน
2. จัดการคำถามที่ซับซ้อน: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลหลายมิติพร้อมกัน
และตอบสนองต่อโจทย์ที่มีเงื่อนไขซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. โปร่งใสและตรวจสอบได้: CoT ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจกระบวนการคิดของ AI
และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ในแต่ละขั้นตอนได้
4. ช่วยพัฒนาทักษะการเขียน Prompt: หลักการ CoT ไม่เพียงช่วย AI ทำงานได้ดีขึ้น
แต่ยังช่วยให้ผู้เขียน Prompt
มีโครงสร้างการเขียนที่ชัดเจนและตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้น
แนวทางการนำ Chain
of Thought ไปใช้
1. ระบุคำถามให้ชัดเจน: การเขียน Prompt ควรระบุคำถามที่มีรายละเอียดและเจาะจง
เช่น การขอให้ AI อธิบายขั้นตอนการคิด
2. กระตุ้นให้ AI อธิบายกระบวนการคิด: ใช้คำสั่งใน Prompt เช่น
"กรุณาอธิบายทีละขั้นตอน" หรือ "แสดงลำดับการคำนวณ"
3. ทดลองและปรับปรุง: ทดสอบ Prompt
หลายรูปแบบเพื่อดูว่าผลลัพธ์ที่ได้ตรงกับความต้องการหรือไม่ และปรับแก้ให้เหมาะสม
สรุป
หลักการ Chain of Thought เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา Prompt ที่มีคุณภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ AI ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ จัดการปัญหาที่ซับซ้อน
หรือช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการวิเคราะห์ข้อมูล การนำ CoT มาใช้ในงานต่าง ๆ
จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ AI
ในองค์กรและส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเขียน Prompt ให้กับพนักงานในยุคดิจิทัล
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงการใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพ
ลองเริ่มต้นจากการเรียนรู้และประยุกต์ใช้หลักการ Chain of Thought ในการเขียน
Prompt ตั้งแต่วันนี้!