Posts

Showing posts with the label สามก๊ก

เล่าปี่ – ภาวะผู้นำที่แข็งแกร่งแต่อ่อนโยน เด็ดขาดแต่เมตตา

Image
ในโลกการทำงานปัจจุบัน เรามักเห็นผู้นำที่พยายามแสดง “ความเด็ดขาดเชิงอำนาจ” ผ่านคำสั่งเร่งรัด หรือการผลักดันงานแบบไม่คำนึงถึงจังหวะและภาระของผู้คนในทีม แต่ผู้เขียนกลับเชื่อว่า ความแข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นมีมิติละมุนกว่า และลึกกว่า มันคือความสามารถในการตัดสินใจด้วยเหตุผล พร้อมยึดมั่นในคุณค่าความเป็นมนุษย์อย่างไม่ลดทอน ในวรรณกรรม สามก๊ก เล่าปี่คือผู้นำที่สะท้อนภาพนั้นอย่างชัดเจนที่สุด เขาไม่ได้มีทัพที่ใหญ่ที่สุด ไม่ได้มีทรัพยากรมากที่สุด แต่เขามี “ทุนทางศรัทธา” มากที่สุด เพราะเขาเข้าใจหัวใจคน และรู้ว่าการนำองค์กร ไม่ใช่เรื่องของอำนาจ แต่เป็นเรื่องของ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับผู้ตาม เมื่อมองผ่านเลนส์การบริหารยุคใหม่ เล่าปี่คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เขาเป็นผู้นำที่ “แข็งแกร่งแต่อ่อนโยน / เด็ดขาดแต่เมตตา” และนี่คือสามเหตุการณ์ที่ช่วยให้ภาพของภาวะผู้นำแบบนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น 1) ผิงหยวน – ความอ่อนโยนที่สร้าง Engagement ระยะยาว เมื่อเล่าปี่เข้าไปปกครองเมืองผิงหยวนที่ยากจน เขาไม่ได้เริ่มด้วยการออกคำสั่ง ไม่ได้ตั้ง KPI ของเจ้าหน้าที่ แต่เขาเริ่มจากการ “สร้างความไว้วางใจ” เขานั่งกินกับชาวบ...

รู้สึกสูง…เพียงเพราะเหยียดคนอื่นให้ต่ำลง

Image
จากบทความก่อนหน้าที่อ้างอิงจากวรรณกรรมสามก๊ก  ศึกเกงเล้ง: เมื่อความรู้ปราศจากปัญญาและประสบการณ์    ได้รับความสนใจจากผู้อ่านเกินคาด มีท่านหนึ่งกรุณาชี้แนะให้เขียนบทความแนวนี้เป็นระยะ ๆ ผู้เขียนเห็นตาม และขอนำเสนอตามนี้ครับ สามก๊ก ... วรรณกรรมที่มนุษย์ใช้เป็นกระจกสะท้อนความหมายของอำนาจมานานนับศตวรรษ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนมักหยิบขึ้นมาคิดเสมอ ไม่ใช่เหตุการณ์รบพุ่ง ไม่ใช่กลศึกพิสดาร แต่เป็น “ถ้อยคำสั้น ๆ” ที่ทำให้เห็นชัดว่า มีอำนาจบางชนิดที่บางคนใช้กดหัวคนอื่นโดยไม่ต้องถือดาบ เหตุการณ์นั้นคือวันที่ เล่าปี่ หนีภัยการเมืองและจำต้องมาพึ่ง โจโฉ ในวุยก๊ก แบบคนไร้แผ่นดิน แต่ไม่ไร้ศักดิ์ศรี ส่วนโจโฉต้อนรับเขาในฐานะผู้มีอำนาจควบคุมราชสำนักทั้งแผ่นดิน แต่มีอัตตาเต็มหัวใจ ระหว่างการสนทนาต่อหน้าขุนนางวุย เมื่อมีผู้ถามถึงภูมิหลังของเล่าปี่ โจโฉเพียงยิ้มบาง ๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่ก็เด่นชัดเพียงพอว่ากำลังเหยียดหยัน “เล่าปี่นั้น เดิมก็แค่คนขายรองเท้าและสานฟาง… ไร้เชื้อสายสูงศักดิ์ใด ๆ” ประโยคนี้เหมือนการเอามือกดหัวคนตรงหน้าอย่างแยบยล ไม่ต้องเสียงดัง ไม่ต้องใช้อำนาจแข็งกร...

ศึกเกงเล้ง: เมื่อความรู้ปราศจากปัญญาและประสบการณ์

Image
ผู้เขียนมีโอกาสอ่าน สามก๊ก มานาน เปิดอ่านครั้งแรกน่าจะสักยี่สิบกว่าปีที่แล้ว และน่าจะอ่านจบไปสองถึงสามรอบ ในเส้นทางชีวิตการทำงาน มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้นึกถึง “ศึกเกงเล้ง” — ศึกที่ขงเบ้งส่งม้าเจ๊กไปป้องกันแนวรบสำคัญ แต่กลับพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดเพราะการประเมินผิดและยึดติดในความรู้ของตนมากเกินไป ม้าเจ๊กเลือกตั้งค่ายบนภูเขาแทนที่จะอยู่ใกล้แม่น้ำ แม้ขงเบ้งจะเตือนแล้วก็ตาม ผลคือกองทัพถูกตัดเส้นทางเสบียงและแตกพ่ายในเวลาไม่นาน เหตุการณ์นั้นทำให้ผู้เขียนสะดุดใจกับบทเรียนสำคัญ ... ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่อาจทดแทนความมีสติปัญญาและประสบการณ์ได้ และการละเลยคำเตือนจากผู้มากประสบการณ์มักนำไปสู่ความล้มเหลวเสมอ วรรณคดีที่สอนคนเก่งให้รู้จักถ่อมตน สามก๊กไม่ใช่แค่เรื่องของสงครามหรืออำนาจ แต่ยังเป็นตำราว่าด้วยจิตใจคน เต็มไปด้วยบทเรียนเรื่อง “ความรู้ ความภักดี และความผิดพลาดของมนุษย์” ในบรรดาศึกทั้งหลายที่ขงเบ้งบัญชาการ ไม่มีครั้งใดเจ็บปวดเท่า “ศึกเกงเล้ง” ครั้งที่เล่าปี่สิ้นไปแล้ว ขงเบ้งยกทัพขึ้นเหนือเพื่อทวงคืนดินแดนจากวุยก๊ก แต่กลับต้องพ่ายเพราะความผิดพลาดของแม่ทัพที่ไว้ใจที่สุด ... “ม้าเจ๊ก” ...