Showing posts with label GEMINI. Show all posts
Showing posts with label GEMINI. Show all posts

Saturday, January 25, 2025

พิชิต Gemini: เทคนิคเขียน Prompt สู่ผลลัพธ์สุดล้ำ


ตั้งแต่ผู้เขียนรู้จักกับ ChatGPT ผู้เขียนสนใจการเขียน prompt ที่ดีเพื่อทำงาน AI Chatbot มาโดยตลอด และเมื่อเริ่มทดลองใช้งาน Gemini กลางปี 2023 ผู้เขียนจึงมุ่งไปที่การพยายามทำความเข้าใจว่าการเขียน Prompt ที่ดีบน Gemini ควรเป็นอย่างไร Blog นี้ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลและความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแบ่งปันกับผู้อ่าน

1. ทำความรู้จัก Gemini และความสำคัญของ Prompt

Gemini คืออะไร? ทำไมต้องใช้?

Gemini คือ Large Language Model (LLM) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Google พัฒนาต่อยอดจาก PaLM 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ Google พัฒนาขึ้น Gemini มีความสามารถหลากหลาย เช่น การสร้างข้อความ การแปลภาษา การเขียนโค้ด การตอบคำถาม และการสรุปข้อมูล 1 Gemini ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน หรือการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายขึ้น

Prompt คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรต่อการใช้งาน Gemini?

Prompt คือ คำสั่งหรือคำถามที่เราป้อนให้กับ Gemini เพื่อกระตุ้นให้ Gemini สร้างผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ Prompt เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญในการไขประตูสู่พลังของ Gemini ยิ่งเขียน Prompt ได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งตรงตามความต้องการ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. พื้นฐานการเขียน Prompt บน Gemini

โครงสร้างพื้นฐานของ Prompt ที่ดี

  • ชัดเจน: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และไม่กำกวม 2

  • กระชับ: ใช้คำน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อสื่อสารความหมายให้ครบถ้วน 2

  • เฉพาะเจาะจง: ระบุสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำอย่างชัดเจน เช่น "เขียนบทความเกี่ยวกับ..." "แปลประโยคนี้เป็นภาษาอังกฤษ" 2

  • มี Context: ให้ข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้ Gemini เข้าใจบริบท และสร้างผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 2

ประเภทของ Prompt บน Gemini

Gemini สามารถช่วยเหลือผู้อ่านได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของ Prompt ที่ป้อน ตัวอย่างเช่น 3:

  • Information and reference prompts: ใช้สำหรับขอข้อมูล เช่น "ใครคือประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา?" Output: "โดนัล ทรัมป์"

  • Analytical and operational prompts: ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล เช่น "สรุปเนื้อหาบทความนี้ให้ฉันฟังหน่อย" Output: (บทสรุปของบทความ)

  • Task prompts: ใช้สำหรับสั่งให้ Gemini ทำงาน เช่น "เขียนจดหมายลาออกให้ฉัน" Output: (ฉบับร่างจดหมายลาออก)

  • Generative prompts: ใช้สำหรับสร้างเนื้อหาใหม่ เช่น "แต่งนิทานสั้นเกี่ยวกับกระต่ายกับเต่า" Output: (นิทานสั้นเกี่ยวกับกระต่ายกับเต่า)

3. องค์ประกอบสำคัญของ Prompt ที่ดี

การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพนั้น มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการที่ควรพิจารณา ได้แก่ 4:

  • Persona: บทบาทหรือมุมมองที่ต้องการให้ Gemini สวม เช่น "ในฐานะนักการตลาด" "ในฐานะครู"

  • Task: ภารกิจหรือสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำ เช่น "เขียนบทความ" "สรุปเนื้อหา" "แปลภาษา"

  • Context: ข้อมูลเพิ่มเติมหรือบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ Gemini เข้าใจและสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น

  • Format: รูปแบบของผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น "เรียงเป็นรายการ" "เขียนเป็นตาราง" "เขียนเป็นย่อหน้า"

ตัวอย่างเช่น Prompt "ในฐานะผู้จัดการโครงการ ช่วยร่างอีเมลสรุปสำหรับผู้บริหาร โดยอ้างอิงจากเอกสารโครงการนี้ และเขียนเป็นรายการ" ประกอบด้วยองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ดังนี้:

  • Persona: ผู้จัดการโครงการ

  • Task: ร่างอีเมลสรุป

  • Context: เอกสารโครงการ

  • Format: รายการ

4. เทคนิคการเขียน Prompt ขั้นสูง

การใช้ Keywords ที่เฉพาะเจาะจง

การใช้ Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการ จะช่วยให้ Gemini เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น เช่น หากต้องการให้ Gemini เขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราอาจใช้ Keywords เช่น "สถานที่ท่องเที่ยว" "โรงแรม" "ตั๋วเครื่องบิน" "กิจกรรม" 2

การกำหนด Context และ Constraints

การกำหนด Context คือการให้ข้อมูลพื้นฐาน หรือบริบท ที่เกี่ยวข้องกับ Prompt เช่น "สมมติว่าเป็นนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์" "เขียนบทความในมุมมองของนักเรียนมัธยมปลาย" 3

การกำหนด Constraints คือการกำหนดข้อจำกัด หรือเงื่อนไข ในการสร้างผลลัพธ์ เช่น "เขียนบทความไม่เกิน 500 คำ" "ใช้ภาษาที่เป็นทางการ" 3

การเชื่อมโยงข้อมูลจากไฟล์ของคุณ

ผู้อ่านสามารถใช้สัญลักษณ์ "@" เพื่ออ้างอิงถึงเอกสาร Sheets หรือไฟล์อื่นๆ ใน Workspace เมื่อเขียน Prompt เช่นเดียวกับที่ใช้ "@" เพื่อแท็กไฟล์ในแอปพลิเคชันต่างๆ นี่เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายในการให้บริบทเพิ่มเติมแก่ Gemini และเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Workspace 5

ตัวอย่างเช่น สมมติว่ากำลังวางแผนจัดงานนอกสถานที่ และได้รับอีเมลจากสมาชิกในทีมที่ขอข้อมูลโรงแรมเพื่อจองห้องพัก ผู้อ่านสามารถขอให้ Gemini ใน Gmail ค้นหาข้อมูลจาก Google Doc ที่มีรายละเอียดทั้งหมดของงานนอกสถานที่ โดยใช้ Prompt ดังนี้: "ช่วยหาชื่อโรงแรมและอีเมลผู้จัดการฝ่ายขายจาก @แผนงานนอกสถานที่บริษัท 2024" จากนั้นก็สามารถนำข้อมูลที่ Gemini หามาใส่ในอีเมลตอบกลับได้อย่างง่ายดาย

การใช้ Prompts Engineering เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

Prompts Engineering คือ กระบวนการออกแบบ ปรับแต่ง และทดสอบ Prompt เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เทคนิค Prompts Engineering เช่น 3:

  • การใช้ตัวอย่าง: ให้ตัวอย่าง Input และ Output ที่ต้องการ เพื่อให้ Gemini เรียนรู้รูปแบบ

  • การปรับแต่ง Parameter: ปรับแต่งค่า Parameter ต่างๆ ของ Gemini เช่น "temperature" "top_k" เพื่อควบคุมความหลากหลาย และความแม่นยำของผลลัพธ์

5. Gemini vs AI อื่นๆ: เหมือนหรือต่าง?

แม้ว่า LLM ต่างๆ เช่น Gemini และ ChatGPT จะมีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างในการเขียน Prompt ที่เหมาะสมกับแต่ละ AI เช่นกัน 6

ความเหมือน:

  • หลักการพื้นฐาน: การเขียน Prompt ที่ดี ควรมีความชัดเจน กระชับ เฉพาะเจาะจง และมีบริบท เพื่อให้ AI เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ 1

  • การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ: ควรใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ เหมือนการพูดคุยกับมนุษย์ เพื่อให้ AI เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเช่นกัน 2

  • การทดลองและปรับแต่ง: ไม่มี Prompt ใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด การทดลอง และปรับแต่ง Prompt อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราค้นพบ Prompt ที่เหมาะสมกับงานของเรา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 4

ความต่าง:

  • ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล: Gemini สามารถเข้าถึงข้อมูล และบริการต่างๆ ของ Google ได้ ในขณะที่ ChatGPT มีข้อจำกัดมากกว่า ดังนั้น การเขียน Prompt สำหรับ Gemini อาจเน้นการเชื่อมโยงข้อมูล และการใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆ ของ Google 5

  • รูปแบบการโต้ตอบ: Gemini เน้นการโต้ตอบแบบหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ และเสียง ในขณะที่ ChatGPT เน้นการโต้ตอบด้วยข้อความเป็นหลัก ดังนั้น การเขียน Prompt สำหรับ Gemini อาจต้องคำนึงถึงรูปแบบการโต้ตอบที่หลากหลายมากขึ้น 7

  • จุดแข็ง: Gemini โดดเด่นด้านความแม่นยำ การวิเคราะห์ข้อมูล และการเชื่อมโยงข้อมูล ในขณะที่ ChatGPT โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ และการเขียน ดังนั้น การเขียน Prompt ควรพิจารณาจุดแข็งของแต่ละ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 6

6. เคล็ดลับพิเศษ: เขียน Prompt อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์สุดล้ำ

การตั้งคำถามที่ชัดเจนและกระชับ

ยิ่งคำถามชัดเจน และกระชับเท่าไหร่ Gemini ก็จะยิ่งเข้าใจ และตอบคำถามได้ตรงประเด็นมากขึ้นเท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่กำกวม และพยายามใช้คำให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น 2

การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ

ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ เหมือนการพูดคุยกับมนุษย์ Gemini สามารถเข้าใจภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดี และจะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเช่นกัน 2

การทดลองและปรับแต่ง Prompt

ไม่มี Prompt ใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด การทดลอง และปรับแต่ง Prompt อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราค้นพบ Prompt ที่เหมาะสมกับงานของเรา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 4 Prompt แรกที่ลองใช้ อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ต้องการในทันที ดังนั้น อย่าลืมทดลองใช้วิธีต่างๆ ใช้ Prompt ติดตามผล และปรับแต่ง Prompt เริ่มต้น เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น จากการศึกษาพบว่า Prompt ที่มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยมีความยาวประมาณ 21 คำ พร้อมบริบทที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ผู้คนมักจะลองใช้ Prompt ที่มีคำน้อยกว่า 9 คำ 1

7. ตัวอย่างการใช้งาน Gemini ในชีวิตประจำวัน

Gemini สามารถช่วยผู้อ่านทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น 1:

  • การเขียน: Gemini สามารถช่วยเขียนอีเมล รายงาน บทความ และเนื้อหาอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

  • การจัดระเบียบข้อมูล: Gemini สามารถช่วยสรุป จัดระเบียบ และวิเคราะห์ข้อมูล จากเอกสาร อีเมล และแหล่งข้อมูลอื่นๆ

  • การสร้างภาพ: Gemini สามารถสร้างภาพต้นฉบับ จากคำอธิบาย

  • การประชุม: Gemini สามารถช่วยจดบันทึก และสรุปประเด็นสำคัญ ในการประชุม

  • การวิจัย: Gemini สามารถช่วยค้นคว้า และเรียนรู้ หัวข้อใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย

8. สรุป: ก้าวสู่การเป็น Master ด้านการเขียน Prompt บน Gemini

การเขียน Prompt เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้ใช้งาน Gemini ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์ผลลัพธ์สุดล้ำ การฝึกฝน การทดลอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้อ่านก้าวสู่การเป็น Master ด้านการเขียน Prompt บน Gemini ได้อย่างแน่นอน

เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน Prompt ให้ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้:

  • เขียน Prompt ให้ชัดเจน กระชับ และเฉพาะเจาะจง: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และระบุสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำอย่างชัดเจน

  • ให้บริบทที่เกี่ยวข้อง: ยิ่งให้ข้อมูล Gemini มากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งตรงตามความต้องการมากขึ้นเท่านั้น

  • ทดลองและปรับแต่ง Prompt: อย่ากลัวที่จะทดลอง Prompt รูปแบบต่างๆ และปรับแต่ง Prompt เดิม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ: Gemini สามารถเข้าใจภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดี ดังนั้น จงเขียน Prompt เหมือนกับที่กำลังพูดคุยกับมนุษย์

  • ศึกษา Prompts Engineering เพิ่มเติม: เรียนรู้เทคนิคขั้นสูง เช่น การใช้ตัวอย่าง และการปรับแต่ง Parameter เพื่อยกระดับทักษะการเขียน Prompt

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเรียนรู้

คำแนะนำสำหรับการพัฒนา Prompt

  • ศึกษา Prompts Engineering เพิ่มเติม 3

  • เข้าร่วม Community ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ เกี่ยวกับ Gemini กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ

  • ติดตามข่าวสาร และอัปเดต เกี่ยวกับ Gemini อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ๆ และเทคนิคการใช้งาน ที่ Google พัฒนาขึ้น

หวังว่า Blog นี้ จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้ผู้อ่านเขียน Prompt บน Gemini ได้อย่างมือโปรนะครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

1. A quick-starthandbook for effective prompts - Google https://services.google.com/fh/files/misc/gemini-for-google-workspace-prompting-guide-101.pdf

2. Tips to write prompts for Gemini - Google Workspace Learning Center https://support.google.com/a/users/answer/14200040?hl=en

3. Write better prompts for Gemini for Google Cloud https://cloud.google.com/gemini/docs/discover/write-prompts

4. Writing Effective AI Prompts for Business | Gemini for Workspace https://workspace.google.com/resources/ai/writing-effective-prompts/

5. 5 ways to write better AI prompts for Gemini in the Workspace side panel - The Keyword https://blog.google/products/workspace/google-gemini-workspace-ai-prompt-tips/

6. ChatGPT VS Gemini AI (Ultimate Test for 2025) - AI Tools - God of Prompt https://www.godofprompt.ai/blog/chatgpt-vs-gemini

7. Gemini vs. ChatGPT: What's the difference? [2025] - Zapier https://zapier.com/blog/gemini-vs-chatgpt/


Friday, February 16, 2024

Google ปล่อยของ ... ประกาศเปิดตัว Gemini 1.5 pro


เช้ามืดวันนี้ ผู้เขียนตรวจสอบ mail box ตามปกตินิสัย ... ได้เห็น email น่าตื่นตาตื่นใจจาก Google Blog "Introducing our next-generation AI model" อุทานในใจอะไรจะ next gen กันเร็วขนาดนี้ เพิ่งจะประกาศ Gemini 1.0 ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง scan อ่านแบบเร็ว ๆ จับความได้ว่า สอง CEO แห่ง google จากฝั่ง Alphabet กับ DeepMind ร่วมกันเปิดตัว Gemini 1.5 pro ที่เรียกว่าพัฒนาไปไกลกว่า Gemini 1.0 แบบใช้คำว่าก้าวกระโดดยังน้อยเกินไป โดยมีคุณลักษณะสำคัญแบบสรุป ดังนี้

Gemini 1.5โมเดล AI รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความสามารถในทำงานแบบ long context ในทุก ๆ Modal

MoE architecture: รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่แบ่งโมเดลออกเป็นเครือข่ายประสาท “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่เล็กกว่า มีความเฉพาะทางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Long-context windowคุณลักษณะที่ทำให้โมเดลประมวลผลได้ถึง 1 ล้านโทเค็นในคำสั่งเดียว นำไปสู่ความสามารถในการการทำงานและประยุกต์ใช้งานใหม่ ๆ กว้างไกลกว่ากรอบในปัจจุบัน

Availability and testingเปิดใช้งาน Gemini 1.5 Pro ในรูปแบบพรีวิวแบบจำกัด เฉพาะสำหรับนักพัฒนาและลูกค้าองค์กรผ่าน AI Studio และ Vertex AI พร้อมดำเนินการทดสอบจริยธรรมและความปลอดภัยอย่างละเอียด

สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ Introducing Gemini 1.5, Google's next-generation AI model (blog.google)

Wednesday, December 20, 2023

ทำความรู้จักกับ GEMINI - Google AI

6 ธันวาคม 2566 ... Google ประกาศเปิดตัว GEMINI อย่างเป็นทางการ ผู้เขียนติดตามข่าวเรื่องนี้ผ่าน Google Blog เกาะติดข้อมูลข่าวสารหลายแหล่ง ด้วยเหตุที่ต้องเรียนตรง ๆ ว่าเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ทั้งอ่านทั้งฟังยังไงก็ไม่ชัดเจนว่า GEMINI คืออะไรกันแน่ รู้เพียงคร่าว ๆ ว่าเป็น AI Model ที่ทันสมัยที่สุด มี 3 รูปแบบตามวัตถุประสงค์ใช้งาน คือ Ultra, Pro และ Nano ผ่านไปหลายวันจึงพอจะเริ่มเห็นภาพว่าทำไม GEMINI ถีงเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจและถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี AI ... ผู้เขียนขอสรุปภาพรวมให้อ่านกันง่าย ๆ ดังนี้ครับ

1) ความสามารถในการทำงานแบบหลายโหมด (Multimodal Capabilities)

GEMINI เป็นโมเดล AI ที่สามารถเข้าใจ ประมวลผล และรวมข้อมูลประเภทต่าง ๆ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และโค้ด(ภาษาเขียนโปรแกรม) ความหลากหลายนี้ทำให้ GEMINI สามารถทำงานได้หลากหลายมากกว่าโมเดล AI ก่อนหน้านี้

2) มีให้เลือก 3 ประเภท

GEMINI มีให้เลือก 3 ประเภท คือ Ultra Pro และ Nano แต่ละประเภทถูกออกแบบมาสำหรับงานที่แตกต่างกัน โดย Ultra สำหรับงานที่ซับซ้อนมาก Pro สำหรับงานที่หลากหลาย และ Nano มีประสิทธิภาพสำหรับงานบนอุปกรณ์

3) การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Google

ตัวอย่างแรก ๆ ที่เห็นได้ตอนนี้ คือ Pro ถูกใช้ใน Bard ซึ่งเป็น AI chatbot ของ Google ซึ่งน่าจะทำให้มีตรรกกะ ให้คำตอบที่ถูกต้องเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น ขณะที่ Nano จะถูกเอาไปใส่ในสมาร์ทโฟน Pixel 8 Pro เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ เช่นการสรุปไฟล์เสียงและสร้างข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็ว เป็นต้น

4) ความก้าวหน้าทางเทคนิค

Google ฝึกฝน (train) GEMINI ด้วย Tensor Processing Units (TPUs) รุ่นใหม่ล่าสุด มีผลให้ GEMINI เป็นหนึ่งในโมเดล AI ที่ทันสมัยที่สุดโดยปริยาย และกำลังดำเนินการปรับปรุง GEMINI Ultra อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยอย่างละเอียด

5) ผลการทดสอบ

GEMINI ผ่านการทดสอบด้วยผลลัพธ์ที่โดดเด่น โดยมีผลการทดสอบที่ดีกว่าผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ในบางงานและเหนือกว่าโมเดลอื่นๆ เช่น GPT-4 ในหลาย ๆ งาน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเช่นเดียวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่บางครั้งให้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด

6) การบูรณาการในอนาคต

Google วางแผนที่จะรวม GEMINI เข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ ของตัวเอง เช่น การค้นหา โฆษณา Chrome และอื่นๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การบูรณาการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Google เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ในชุดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

7) การเข้าถึงสำหรับนักพัฒนา

นักพัฒนาจะเข้าถึง GEMINI Pro ได้ในรูปแบบ API บนแพลตฟอร์ม Google AI Studio และ Google Cloud Vertex AI ทำให้นักพัฒนาและองค์กรต่างๆ สามารถสร้างเครื่องมือ AI เฉพาะทางสำหรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ

GEMINI ของ Google แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถด้าน AI แบบก้าวกระโดด โดยนำเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้และการปรับปรุงที่หลากหลายมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ความสามารถในการประมวลผลและรวมข้อมูลหลายประเภทถือเป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของเทคโนโลยี AI​

ผู้เขียนเอา link การกล่าวเปิดตัว GEMINI ของ Sundra Pichai - Google's CEO แปะไว้ให้ ... ลองชมลองฟังกันดูครับ

https://youtu.be/jV1vkHv4zq8?si=8R_x-K7BgIB-1m5P


Most Viewed Last 30 Days