Posts

Showing posts with the label OpenAI

ไขรหัส “Context Window” – ทำไมขนาดความจำชั่วคราวของ AI ถึงสำคัญ

Image
ผู้เขียนได้รับคำถามน่าสนใจจากผู้อ่านท่านหนึ่ง ประมาณว่า "context window คืออะไร ช่วยอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้หน่อยนะค่ะ" ก็ต้องตอบว่าได้เลยครับ คืออย่างนี้ เวลาคุยกับ AI แล้วรู้สึกว่ามัน “ลืม” สิ่งที่เราพูดไปก่อนหน้า ทั้งที่เพิ่งคุยกันเมื่อครู่ จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ความจำสั้นเพราะขี้ลืม แต่มันมี “ขอบเขตความจำชั่วคราว” อยู่ และเจ้าสิ่งนี้มีชื่อว่า Context Window ถ้าเปรียบง่าย ๆ Context Window ก็คือ สมุดบันทึกที่ AI ใช้จดบทสนทนาล่าสุด แต่สมุดเล่มนี้มีจำนวนหน้าจำกัด ต่อให้เป็น AI รุ่นใหม่สุด ก็ยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดนี้ เพียงแต่… หน้าสมุดมันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตามวิวัฒนาการของแต่ละรุ่น Context Window คืออะไร ในเชิงเทคนิค Context Window คือ จำนวนโทเค็น (token) ที่โมเดล AI สามารถรับเข้ามาและใช้เป็น “บริบท” (context) สำหรับคิดและตอบกลับได้ในการทำงานรอบหนึ่ง โทเค็น (token) คือหน่วยข้อมูลที่เล็กกว่าคำ อาจเป็นแค่พยางค์ ตัวอักษร หรือกลุ่มตัวอักษร ขึ้นกับภาษา เช่น คำว่า “สวัสดีครับ” อาจนับได้ 3–4 โทเค็น และประโยคหนึ่ง ๆ จึงมีโทเค็นมากกว่าจำนวนคำ ทำงานอย่างไร AI จะอ่านข้อมูลที่เรา...

ChatGPT - 5: ก้าวกระโดดของ AI ที่เกินกว่าคำว่า Upgrade

Image
“ในโลกของ AI ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว GPT - 5 ไม่ใช่แค่รุ่นถัดไป...แต่มันคือแพลตฟอร์มใหม่ของความสามารถเชิงปัญญาที่รวมทุกสิ่งไว้ในตัวเดียว” ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2025 หลายสำนักข่าวเทคโนโลยีทั่วโลกต่างจับตา OpenAI กับการปล่อยโมเดลใหม่ล่าสุด “ ChatGPT - 5 ” ซึ่งว่ากันว่าคือจุดเปลี่ยนสำคัญของ AI ระดับผู้ใช้งานทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง ผู้เขียนได้ลองรวบรวมคุณสมบัติเด่น จุดต่างจากรุ่นก่อนหน้า และวิเคราะห์ว่า “GPT - 5 ก้าวกระโดด” คืออะไรกันแน่ เพื่อชวนให้คิดต่อว่า...เทคโนโลยีนี้กำลังจะเปลี่ยนวิธีการทำงานของเราไปอีกแบบจริงหรือไม่ GPT‑5: ความอัจฉริยะรวมทุกมิติในตัวเดียว 1. Unified Intelligence: AI ตัวเดียวจบทุกภารกิจ GPT‑5 เป็นโมเดลแรกของ OpenAI ที่รวมความสามารถ reasoning สูงสุด (จากซีรีส์ o3) เข้ากับระบบ multimodal input/output (ข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ) ภายในระบบเดียว ไม่ต้องสลับโมเดลไปมา ทำให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพ พูดคุยด้วยเสียง หรือแม้แต่วิเคราะห์วิดีโอ แล้วให้ GPT‑5 ตอบกลับได้แบบเนียนสนิท 2. Reasoning & ความแม่นยำสูงขึ้นหลายระดับ เบื้องหลังของ GPT‑5 คือโครงสร้าง o3-series ซึ่...

ChatGPT ในไตรมาส 2/2025 เปลี่ยนไปแค่ไหน?

Image
ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2025 OpenAI ได้ผลักดันการพัฒนา ChatGPT อย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายระยะยาวคือการทำให้ ChatGPT กลายเป็น "Super Assistant" หรือผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถจัดการงานได้หลากหลายตั้งแต่การสื่อสาร ประชุม วิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการซื้อของ โดยทั้งหมดนี้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน 1. GPT‑4.1 และ o3‑pro: ฉลาดกว่า เร็วกว่า ประหยัดกว่า ในไตรมาสนี้ ผู้ใช้ ChatGPT Plus และองค์กรสามารถเข้าถึงโมเดลใหม่อย่าง GPT‑4.1 ซึ่งพัฒนาจาก GPT‑4-turbo โดยมีจุดเด่นคือความเร็วในการตอบสนองดีขึ้น ความแม่นยำเพิ่มขึ้น และรองรับการประมวลผลข้อมูลจากหลายแหล่งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมี o3‑pro โมเดลที่มีความสามารถในการวิเคราะห์เชิงลึกและทำ reasoning ได้แม่นยำมาก เหมาะสำหรับงานวิจัยหรือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ 2. Deep Research + Connectors: AI นักวิจัยส่วนตัวของคุณ หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือฟีเจอร์ Deep Research ที่ทำให้ ChatGPT สามารถเข้าถึงเนื้อหาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Google Drive, OneDrive, Dropbox, Gmail, และ GitHub โดยตรง เพื่อสรุป วิเคราะห์ และสร้างรายงานแบบอัตโนมัติได้ การทำงานของฟีเจอร์นี้เปลี่ยนแปล...

Deep Research และ Deep Think: วิวัฒนาการของ AI ในการคิดและวิจัยเชิงลึก

Image
ผู้เขียนสนใจเทคโนโลยีใหม่บน AI อย่าง Deep Research และ Deep Think ที่ปรากฏให้เห็นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาโดยตลอด เทคโนโลยีทั้งสองตัวนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องมือสนับสนุนการค้นคว้า แต่ยังเป็นแนวทาง ในการพัฒนา AI ให้สามารถคิด วิเคราะห์ และจัดการข้อมูลได้อย่างใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น บทความนี้มุ่งอธิบายแนวคิดหลักของทั้งสองระบบ พร้อมตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน และผลกระทบต่อทักษะทางความคิดของมนุษย์ Deep Research: การวิเคราะห์เชิงลึกโดย AI Deep Research หมายถึง กระบวนการที่ AI ใช้แบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models: LLMs) ในการค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ด้วยวิธีการอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายงานหรือข้อสรุปที่เชื่อถือได้ในเวลาอันสั้น เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยลดภาระการค้นคว้าด้วยตนเอง และปรับปรุงความแม่นยำของผลลัพธ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ องค์ประกอบหลักของ Deep Research ได้แก่ การสแกนข้อมูลจำนวนมากจากหลายแหล่ง (multi-source scanning), การเปรียบเทียบข้อมูลแบบข้ามแหล่ง (cross-source comparison), การระบุความขัดแย้งของข้อมูล, และการสร...

Deep Research + Voice Mode: ฟีเจอร์ใหม่ใน Projects ที่เปลี่ยน ChatGPT ให้เป็นผู้ช่วยมือโปร

Image
เช้านี้ (13 มิ.ย. 68) ผู้เขียนเปิด ChatGPT ขึ้นมาทำงานตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็ปรากฏขึ้นมา (อีกแล้ว) ในรูปของแถบสีฟ้าเล็ก ๆ ตรงเมนู New Project ฝั่งซ้ายหน้าจอ พร้อมข้อความว่า "Projects can do more" Now you can run deep research and use voice mode within your projects. สิ่งที่ผุดขึ้นในใจคือความสามารถที่ว่า "do more" นั้น หมายถึงอะไร? ผู้เขียนเลยขอพาไปทำความรู้จักกับฟีเจอร์นี้ พร้อมอัปเดตความสามารถล่าสุด ที่น่าจะเปลี่ยนวิธีใช้งาน ChatGPT ไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว 📁 Projects คืออะไรใน ChatGPT? โดยปกติแล้ว เวลาเราใช้งาน ChatGPT เราจะพูดคุยหรือสอบถามในรูปแบบ “แชต” ซึ่งมักเป็นการสนทนาสั้น ๆ แบบจบเป็นรอบ ๆ ไป แต่ Projects คืออีกขั้นของการใช้งาน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ “งานที่ซับซ้อนกว่าเดิม” ผู้ใช้สามารถ: - สร้างพื้นที่ทำงานแบบแยกเป็นโปรเจกต์ - รวมไฟล์หลายประเภทไว้ในที่เดียว - เขียนโน้ต บันทึกเป้าหมาย - และที่สำคัญที่สุด — ขอให้ ChatGPT วิเคราะห์หรือช่วยวางแผนได้อย่างต่อเนื่องในบริบทเดียวกัน จะว่าไป Projects ก็เปรียบเสมือน “โต๊ะทำงานดิจิทัล” ของผู้ใช้ที่ AI สามารถช่วยจ...

Codex กลับมาอีกครั้ง! กับบทบาทใหม่ใน ChatGPT: Software Engineering Agent ที่ทำได้มากกว่าเขียนโค้ด

Image
  เช้าวันนี้ (พุธ 4 มิ.ย. 68) ผู้เขียนเปิด ChatGPT ขึ้นมาตามปกติ ตั้งใจจะทำ reseach เรื่อง Deep Think ที่ค้างไว้ต่อสักหน่อยก่อนเริ่มทำงานประจำ แต่กลับสะดุดตากับเมนู Codex พร้อมแถบข้อความสีฟ้าเล็ก ๆ ด้านข้างที่เขียนว่า “NEW: Software Engineering Agent” พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ว่านี่คือผู้ช่วยด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ ที่ทำอะไรได้มากกว่าการเขียนโค้ด ผู้เขียนไม่รอช้า สำรวจดูทันที และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทความนี้ ที่อยากเล่าถึงความน่าทึ่งของ “Codex” ในเวอร์ชันล่าสุดที่ฝังอยู่ใน GPT-4o 🔄 จาก Codex รุ่นเก่าสู่ Software Engineering Agent รุ่นใหม่ ใครที่เคยใช้ Codex รุ่นก่อนหน้า (ที่ถูกฝังอยู่ใน GitHub Copilot) อาจคุ้นกับความสามารถในการ “เขียนโค้ดตามที่สั่ง” แต่ Codex ในเวอร์ชันที่อยู่ใน GPT-4o ของ ChatGPT นั้น ไม่ได้หยุดแค่การเขียนโค้ด มันคือผู้ช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่: - อ่านโค้ดหลายไฟล์พร้อมกัน - วิเคราะห์การทำงานของระบบ - แก้บั๊ก แนะนำโครงสร้างใหม่ - สร้าง Unit Test และเอกสารอัตโนมัติ - เข้าใจ logic ของแอปพลิเคชันทั้งตัว 🧠 ฟีเจอร์เด่นของ Codex (GPT-4o) 🔍 Code Understandin...

Deep Research: เครื่องมือใหม่ของ ChatGPT สำหรับการค้นคว้าเชิงลึกแบบมืออาชีพ

Image
หากผู้อ่านเคยรู้สึกว่า การค้นคว้าข้อมูลเพื่อศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงจังนั้นใช้เวลามาก และมักเจอแต่แหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือหรือกระจัดกระจาย ฟีเจอร์ใหม่จาก OpenAI ที่ชื่อว่า Deep Research อาจเป็นคำตอบที่เปลี่ยนวิธีการศึกษาของเราไปโดยสิ้นเชิง Deep Research บน ChatGPT (เฉพาะ GPT-4 Turbo) เปิดให้ใช้ทั่วโลกในวันนี้ 25 เมษายน 2568 เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น รายงานวิจัย บทความวิชาการ ข่าวจากสื่อหลัก และเว็บไซต์คุณภาพสูง พร้อมสรุปผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลให้พร้อมในตัว ทำไม Deep Research จึงน่าสนใจ? ไม่ว่าผู้อ่านจะกำลังทำรายงานวิชาการ ค้นคว้าเพื่อเตรียมงานนำเสนอ หรือเพียงต้องการทำความเข้าใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ลึกและรอบด้าน Deep Research ช่วยให้การศึกษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยคุณสมบัติเด่น เช่น: ข้อมูลสดใหม่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อ้างอิงพร้อมลิงก์ตรวจสอบได้จริง สรุปเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบเข้าใจง่าย ประหยัดเวลาในการค้นคว้าเองหลายชั่วโมง เริ่มต้นใช้งาน Deep Research ได้อย่างไร? ต้องใช้ Chat...

ChatGPT ใช้ยังไงให้เก่งกว่าเพื่อนในที่ทำงาน (แบบเนียน ๆ)

Image
ลองนึกภาพดู... เพื่อนร่วมงานยังคิดหัวข้อพรีเซนต์ไม่ออก แต่คุณมีไอเดียเต็มกระดาษ เจ้านายเพิ่งส่งอีเมลให้ร่างสรุปรายงานตอน 4 โมงเย็น แต่คุณส่งกลับไปตอน 4 โมง 5 นาที ใคร ๆ ก็ถามว่า “ทำได้ไงไวขนาดนี้?” เฉลยง่าย ๆ สั้น ๆ: คุณมี ChatGPT อยู่ในมือ วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังว่า คนทำงานในสำนักงานแบบเรา ๆ จะใช้ ChatGPT ยังไงให้ทำงานได้ “ไวขึ้น ฉลาดขึ้น และดูโปรขึ้น” แบบไม่ต้องเปลืองแรงเลยครับ 🧠 1. คิดไว ตอบเร็ว: ให้ ChatGPT เป็นเครื่องคิดให้ทันที เคยมั้ย? เจอประชุมด่วนแล้วเจ้านายถาม “มีไอเดียอะไรบ้าง?” สมองว่างเปล่าแบบแทบได้ยินเสียงลม ลองพิมพ์แบบนี้ให้ ChatGPT ดู: “ช่วยเสนอไอเดียโปรเจกต์ด้าน [ใส่หมวดงาน] 5 แบบ พร้อมจุดเด่นของแต่ละแบบ” หรือ “ช่วยคิดหัวข้อประชุมทีมงานประจำเดือน ที่ฟังดูสร้างสรรค์หน่อย” ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที คุณก็มีลิสต์ไอเดียไปนำเสนอได้แบบมือโปรแล้ว ✉️ 2. เขียนอีเมลให้ดูเก่ง ทั้งที่ไม่ได้เขียนเองทั้งหมด อีเมล...งานที่ต้องเขียนทุกวันแต่ก็ยังเหนื่อยทุกที ไม่ต้องเสียเวลานั่งคิดประโยคเท่ ๆ ลองแบบนี้เลย: “ช่วยร่างอีเมลติดต่องานแบบสุภาพ เป็นกันเอง สำหรับลูกค้า...