Showing posts with label prompt. Show all posts
Showing posts with label prompt. Show all posts

Saturday, January 25, 2025

พิชิต Gemini: เทคนิคเขียน Prompt สู่ผลลัพธ์สุดล้ำ


ตั้งแต่ผู้เขียนรู้จักกับ ChatGPT ผู้เขียนสนใจการเขียน prompt ที่ดีเพื่อทำงาน AI Chatbot มาโดยตลอด และเมื่อเริ่มทดลองใช้งาน Gemini กลางปี 2023 ผู้เขียนจึงมุ่งไปที่การพยายามทำความเข้าใจว่าการเขียน Prompt ที่ดีบน Gemini ควรเป็นอย่างไร Blog นี้ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลและความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแบ่งปันกับผู้อ่าน

1. ทำความรู้จัก Gemini และความสำคัญของ Prompt

Gemini คืออะไร? ทำไมต้องใช้?

Gemini คือ Large Language Model (LLM) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Google พัฒนาต่อยอดจาก PaLM 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ Google พัฒนาขึ้น Gemini มีความสามารถหลากหลาย เช่น การสร้างข้อความ การแปลภาษา การเขียนโค้ด การตอบคำถาม และการสรุปข้อมูล 1 Gemini ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน หรือการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายขึ้น

Prompt คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรต่อการใช้งาน Gemini?

Prompt คือ คำสั่งหรือคำถามที่เราป้อนให้กับ Gemini เพื่อกระตุ้นให้ Gemini สร้างผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ Prompt เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญในการไขประตูสู่พลังของ Gemini ยิ่งเขียน Prompt ได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งตรงตามความต้องการ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. พื้นฐานการเขียน Prompt บน Gemini

โครงสร้างพื้นฐานของ Prompt ที่ดี

  • ชัดเจน: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และไม่กำกวม 2

  • กระชับ: ใช้คำน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อสื่อสารความหมายให้ครบถ้วน 2

  • เฉพาะเจาะจง: ระบุสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำอย่างชัดเจน เช่น "เขียนบทความเกี่ยวกับ..." "แปลประโยคนี้เป็นภาษาอังกฤษ" 2

  • มี Context: ให้ข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้ Gemini เข้าใจบริบท และสร้างผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 2

ประเภทของ Prompt บน Gemini

Gemini สามารถช่วยเหลือผู้อ่านได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของ Prompt ที่ป้อน ตัวอย่างเช่น 3:

  • Information and reference prompts: ใช้สำหรับขอข้อมูล เช่น "ใครคือประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา?" Output: "โดนัล ทรัมป์"

  • Analytical and operational prompts: ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล เช่น "สรุปเนื้อหาบทความนี้ให้ฉันฟังหน่อย" Output: (บทสรุปของบทความ)

  • Task prompts: ใช้สำหรับสั่งให้ Gemini ทำงาน เช่น "เขียนจดหมายลาออกให้ฉัน" Output: (ฉบับร่างจดหมายลาออก)

  • Generative prompts: ใช้สำหรับสร้างเนื้อหาใหม่ เช่น "แต่งนิทานสั้นเกี่ยวกับกระต่ายกับเต่า" Output: (นิทานสั้นเกี่ยวกับกระต่ายกับเต่า)

3. องค์ประกอบสำคัญของ Prompt ที่ดี

การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพนั้น มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการที่ควรพิจารณา ได้แก่ 4:

  • Persona: บทบาทหรือมุมมองที่ต้องการให้ Gemini สวม เช่น "ในฐานะนักการตลาด" "ในฐานะครู"

  • Task: ภารกิจหรือสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำ เช่น "เขียนบทความ" "สรุปเนื้อหา" "แปลภาษา"

  • Context: ข้อมูลเพิ่มเติมหรือบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ Gemini เข้าใจและสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น

  • Format: รูปแบบของผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น "เรียงเป็นรายการ" "เขียนเป็นตาราง" "เขียนเป็นย่อหน้า"

ตัวอย่างเช่น Prompt "ในฐานะผู้จัดการโครงการ ช่วยร่างอีเมลสรุปสำหรับผู้บริหาร โดยอ้างอิงจากเอกสารโครงการนี้ และเขียนเป็นรายการ" ประกอบด้วยองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ดังนี้:

  • Persona: ผู้จัดการโครงการ

  • Task: ร่างอีเมลสรุป

  • Context: เอกสารโครงการ

  • Format: รายการ

4. เทคนิคการเขียน Prompt ขั้นสูง

การใช้ Keywords ที่เฉพาะเจาะจง

การใช้ Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการ จะช่วยให้ Gemini เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น เช่น หากต้องการให้ Gemini เขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราอาจใช้ Keywords เช่น "สถานที่ท่องเที่ยว" "โรงแรม" "ตั๋วเครื่องบิน" "กิจกรรม" 2

การกำหนด Context และ Constraints

การกำหนด Context คือการให้ข้อมูลพื้นฐาน หรือบริบท ที่เกี่ยวข้องกับ Prompt เช่น "สมมติว่าเป็นนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์" "เขียนบทความในมุมมองของนักเรียนมัธยมปลาย" 3

การกำหนด Constraints คือการกำหนดข้อจำกัด หรือเงื่อนไข ในการสร้างผลลัพธ์ เช่น "เขียนบทความไม่เกิน 500 คำ" "ใช้ภาษาที่เป็นทางการ" 3

การเชื่อมโยงข้อมูลจากไฟล์ของคุณ

ผู้อ่านสามารถใช้สัญลักษณ์ "@" เพื่ออ้างอิงถึงเอกสาร Sheets หรือไฟล์อื่นๆ ใน Workspace เมื่อเขียน Prompt เช่นเดียวกับที่ใช้ "@" เพื่อแท็กไฟล์ในแอปพลิเคชันต่างๆ นี่เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายในการให้บริบทเพิ่มเติมแก่ Gemini และเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Workspace 5

ตัวอย่างเช่น สมมติว่ากำลังวางแผนจัดงานนอกสถานที่ และได้รับอีเมลจากสมาชิกในทีมที่ขอข้อมูลโรงแรมเพื่อจองห้องพัก ผู้อ่านสามารถขอให้ Gemini ใน Gmail ค้นหาข้อมูลจาก Google Doc ที่มีรายละเอียดทั้งหมดของงานนอกสถานที่ โดยใช้ Prompt ดังนี้: "ช่วยหาชื่อโรงแรมและอีเมลผู้จัดการฝ่ายขายจาก @แผนงานนอกสถานที่บริษัท 2024" จากนั้นก็สามารถนำข้อมูลที่ Gemini หามาใส่ในอีเมลตอบกลับได้อย่างง่ายดาย

การใช้ Prompts Engineering เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

Prompts Engineering คือ กระบวนการออกแบบ ปรับแต่ง และทดสอบ Prompt เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เทคนิค Prompts Engineering เช่น 3:

  • การใช้ตัวอย่าง: ให้ตัวอย่าง Input และ Output ที่ต้องการ เพื่อให้ Gemini เรียนรู้รูปแบบ

  • การปรับแต่ง Parameter: ปรับแต่งค่า Parameter ต่างๆ ของ Gemini เช่น "temperature" "top_k" เพื่อควบคุมความหลากหลาย และความแม่นยำของผลลัพธ์

5. Gemini vs AI อื่นๆ: เหมือนหรือต่าง?

แม้ว่า LLM ต่างๆ เช่น Gemini และ ChatGPT จะมีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างในการเขียน Prompt ที่เหมาะสมกับแต่ละ AI เช่นกัน 6

ความเหมือน:

  • หลักการพื้นฐาน: การเขียน Prompt ที่ดี ควรมีความชัดเจน กระชับ เฉพาะเจาะจง และมีบริบท เพื่อให้ AI เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ 1

  • การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ: ควรใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ เหมือนการพูดคุยกับมนุษย์ เพื่อให้ AI เข้าใจ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเช่นกัน 2

  • การทดลองและปรับแต่ง: ไม่มี Prompt ใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด การทดลอง และปรับแต่ง Prompt อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราค้นพบ Prompt ที่เหมาะสมกับงานของเรา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 4

ความต่าง:

  • ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล: Gemini สามารถเข้าถึงข้อมูล และบริการต่างๆ ของ Google ได้ ในขณะที่ ChatGPT มีข้อจำกัดมากกว่า ดังนั้น การเขียน Prompt สำหรับ Gemini อาจเน้นการเชื่อมโยงข้อมูล และการใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆ ของ Google 5

  • รูปแบบการโต้ตอบ: Gemini เน้นการโต้ตอบแบบหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ และเสียง ในขณะที่ ChatGPT เน้นการโต้ตอบด้วยข้อความเป็นหลัก ดังนั้น การเขียน Prompt สำหรับ Gemini อาจต้องคำนึงถึงรูปแบบการโต้ตอบที่หลากหลายมากขึ้น 7

  • จุดแข็ง: Gemini โดดเด่นด้านความแม่นยำ การวิเคราะห์ข้อมูล และการเชื่อมโยงข้อมูล ในขณะที่ ChatGPT โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ และการเขียน ดังนั้น การเขียน Prompt ควรพิจารณาจุดแข็งของแต่ละ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 6

6. เคล็ดลับพิเศษ: เขียน Prompt อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์สุดล้ำ

การตั้งคำถามที่ชัดเจนและกระชับ

ยิ่งคำถามชัดเจน และกระชับเท่าไหร่ Gemini ก็จะยิ่งเข้าใจ และตอบคำถามได้ตรงประเด็นมากขึ้นเท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่กำกวม และพยายามใช้คำให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น 2

การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ

ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ เหมือนการพูดคุยกับมนุษย์ Gemini สามารถเข้าใจภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดี และจะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเช่นกัน 2

การทดลองและปรับแต่ง Prompt

ไม่มี Prompt ใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด การทดลอง และปรับแต่ง Prompt อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราค้นพบ Prompt ที่เหมาะสมกับงานของเรา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 4 Prompt แรกที่ลองใช้ อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ต้องการในทันที ดังนั้น อย่าลืมทดลองใช้วิธีต่างๆ ใช้ Prompt ติดตามผล และปรับแต่ง Prompt เริ่มต้น เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น จากการศึกษาพบว่า Prompt ที่มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยมีความยาวประมาณ 21 คำ พร้อมบริบทที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ผู้คนมักจะลองใช้ Prompt ที่มีคำน้อยกว่า 9 คำ 1

7. ตัวอย่างการใช้งาน Gemini ในชีวิตประจำวัน

Gemini สามารถช่วยผู้อ่านทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น 1:

  • การเขียน: Gemini สามารถช่วยเขียนอีเมล รายงาน บทความ และเนื้อหาอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

  • การจัดระเบียบข้อมูล: Gemini สามารถช่วยสรุป จัดระเบียบ และวิเคราะห์ข้อมูล จากเอกสาร อีเมล และแหล่งข้อมูลอื่นๆ

  • การสร้างภาพ: Gemini สามารถสร้างภาพต้นฉบับ จากคำอธิบาย

  • การประชุม: Gemini สามารถช่วยจดบันทึก และสรุปประเด็นสำคัญ ในการประชุม

  • การวิจัย: Gemini สามารถช่วยค้นคว้า และเรียนรู้ หัวข้อใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย

8. สรุป: ก้าวสู่การเป็น Master ด้านการเขียน Prompt บน Gemini

การเขียน Prompt เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้ใช้งาน Gemini ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์ผลลัพธ์สุดล้ำ การฝึกฝน การทดลอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้อ่านก้าวสู่การเป็น Master ด้านการเขียน Prompt บน Gemini ได้อย่างแน่นอน

เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน Prompt ให้ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้:

  • เขียน Prompt ให้ชัดเจน กระชับ และเฉพาะเจาะจง: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และระบุสิ่งที่ต้องการให้ Gemini ทำอย่างชัดเจน

  • ให้บริบทที่เกี่ยวข้อง: ยิ่งให้ข้อมูล Gemini มากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งตรงตามความต้องการมากขึ้นเท่านั้น

  • ทดลองและปรับแต่ง Prompt: อย่ากลัวที่จะทดลอง Prompt รูปแบบต่างๆ และปรับแต่ง Prompt เดิม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ: Gemini สามารถเข้าใจภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดี ดังนั้น จงเขียน Prompt เหมือนกับที่กำลังพูดคุยกับมนุษย์

  • ศึกษา Prompts Engineering เพิ่มเติม: เรียนรู้เทคนิคขั้นสูง เช่น การใช้ตัวอย่าง และการปรับแต่ง Parameter เพื่อยกระดับทักษะการเขียน Prompt

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเรียนรู้

คำแนะนำสำหรับการพัฒนา Prompt

  • ศึกษา Prompts Engineering เพิ่มเติม 3

  • เข้าร่วม Community ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ เกี่ยวกับ Gemini กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ

  • ติดตามข่าวสาร และอัปเดต เกี่ยวกับ Gemini อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ๆ และเทคนิคการใช้งาน ที่ Google พัฒนาขึ้น

หวังว่า Blog นี้ จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้ผู้อ่านเขียน Prompt บน Gemini ได้อย่างมือโปรนะครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

1. A quick-starthandbook for effective prompts - Google https://services.google.com/fh/files/misc/gemini-for-google-workspace-prompting-guide-101.pdf

2. Tips to write prompts for Gemini - Google Workspace Learning Center https://support.google.com/a/users/answer/14200040?hl=en

3. Write better prompts for Gemini for Google Cloud https://cloud.google.com/gemini/docs/discover/write-prompts

4. Writing Effective AI Prompts for Business | Gemini for Workspace https://workspace.google.com/resources/ai/writing-effective-prompts/

5. 5 ways to write better AI prompts for Gemini in the Workspace side panel - The Keyword https://blog.google/products/workspace/google-gemini-workspace-ai-prompt-tips/

6. ChatGPT VS Gemini AI (Ultimate Test for 2025) - AI Tools - God of Prompt https://www.godofprompt.ai/blog/chatgpt-vs-gemini

7. Gemini vs. ChatGPT: What's the difference? [2025] - Zapier https://zapier.com/blog/gemini-vs-chatgpt/


Friday, January 17, 2025

Chain of Thought: เคล็ดลับสู่ Prompt ที่แม่นยำ

 


ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานและการตัดสินใจในหลากหลายธุรกิจ การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุด หลักการ Chain of Thought (CoT) เป็นแนวทางพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มความสามารถของ AI ในการตอบคำถามหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ในบทความนี้ เราจะสำรวจว่าหลักการ CoT คืออะไร มีที่มาอย่างไร และเหตุใดจึงสำคัญต่อการพัฒนา Prompt ที่มีคุณภาพ

Chain of Thought คืออะไร?

Chain of Thought หรือ CoT คือแนวทางที่ช่วยให้การคิดหรือการแก้ปัญหาถูกแบ่งออกเป็นลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน หลักการนี้เน้นให้ AI อธิบายกระบวนการคิดอย่างมีโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงแค่ให้คำตอบสุดท้าย แต่ต้องแสดงเหตุผลและลำดับการคำนวณหรือวิเคราะห์ที่นำไปสู่คำตอบนั้น

องค์ประกอบสำคัญของ Chain of Thought
1. Input: คำถามหรือข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์
2. Reasoning Steps: กระบวนการคิดเป็นขั้นตอน เช่น การแยกปัจจัย การวิเคราะห์ทางเลือก หรือการคำนวณ
3. Output: ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ทีละขั้นตอน

ที่มาของ Chain of Thought

หลักการ CoT ถูกนำเสนอในงานวิจัยชื่อ "Chain of Thought Prompting Elicits Reasoning in Large Language Models" (2022) โดย Jason Wei และทีมวิจัยจาก Google ซึ่งได้รับการเผยแพร่ใน arXiv (arXiv:2201.11903) โดยในงานวิจัยนี้ทีมผู้วิจัยแสดงให้เห็นว่า AI ที่ได้รับการกระตุ้นให้คิดแบบ CoT สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่า AI ที่ให้คำตอบแบบตรงไปตรงมา ตัวอย่างที่พวกเขาใช้รวมถึงการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ต้องอาศัยลำดับการคำนวณและการให้เหตุผลเชิงตรรกะ ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากงานวิจัยต้นฉบับที่ arXiv:https://arxiv.org/abs/2201.11903

ตัวอย่างการนำ CoT มาใช้ เช่น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ต้องการลำดับการคำนวณ หรือการวิเคราะห์ปัญหาทางธุรกิจที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยพร้อมกัน

ตัวอย่างง่าย ๆ การประยุกต์ใช้ Chain of Thought 

คำถาม:
คุณเป็นผู้จัดการโรงงานผลิตสินค้าแห่งหนึ่ง ในการผลิตสินค้าต้องใช้เครื่องจักร 3 ชนิดที่ทำงานร่วมกัน:

  • เครื่องจักร A ผลิตได้ 50 ชิ้น/ชม.
  • เครื่องจักร B ผลิตได้ 30 ชิ้น/ชม.
  • เครื่องจักร C ผลิตได้ 20 ชิ้น/ชม.

ข้อจำกัดคือ:

  1. เครื่องจักรทุกเครื่องต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
  2. ต้องผลิตสินค้าขั้นต่ำ 600 ชิ้นในหนึ่งวัน

คุณจะวางแผนอย่างไรเพื่อให้การผลิตบรรลุเป้าหมายในข้อจำกัดที่กำหนด?

การใช้ Chain of Thought:

  1. Input:

    • อัตราการผลิตของเครื่องจักร: A (50 ชิ้น/ชม.), B (30 ชิ้น/ชม.), C (20 ชิ้น/ชม.)
    • ระยะเวลาการทำงาน: 8 ชั่วโมง/วัน
    • เป้าหมาย: ผลิตสินค้าขั้นต่ำ 600 ชิ้น
  2. Reasoning Steps:

    • ขั้นที่ 1: คำนวณความสามารถในการผลิตของเครื่องจักรแต่ละเครื่องใน 8 ชั่วโมง
      • A: 50 × 8 = 400 ชิ้น
      • B: 30 × 8 = 240 ชิ้น
      • C: 20 × 8 = 160 ชิ้น
    • ขั้นที่ 2: รวมผลการผลิตจากเครื่องจักรทั้ง 3
      • รวม: 400 + 240 + 160 = 800 ชิ้น
    • ขั้นที่ 3: เปรียบเทียบกับเป้าหมายขั้นต่ำ (600 ชิ้น)
      • ผลการผลิต (800 ชิ้น) เกินกว่าเป้าหมาย 600 ชิ้น
    • ขั้นที่ 4: ตรวจสอบว่าเครื่องจักรทุกเครื่องทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมงตามข้อกำหนด
  3. Output:

    • ใช้เครื่องจักรทั้ง 3 ชนิดทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
    • ผลิตได้ 800 ชิ้น ซึ่งบรรลุเป้าหมายขั้นต่ำ


รูปแบบการเขียน Prompt ด้วยแนวคิด Chain of Thought

ในการเขียน Prompt โดยใช้หลักการ Chain of Thought ควรเน้นให้ AI แสดงกระบวนการคิดทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน ต่อไปนี้คือรูปแบบตัวอย่าง:

1. ขั้นตอน 1: ระบุคำถามหรือปัญหาให้ชัดเจน
2. ขั้นตอน 2: กระตุ้นให้ AI วิเคราะห์หรืออธิบายคำตอบทีละขั้นตอน
3. ขั้นตอน 3: ขอให้ AI สรุปผลลัพธ์จากกระบวนการคิดที่ได้

ตัวอย่าง Prompt:
"กรุณาช่วยตอบคำถามต่อไปนี้โดยอธิบายกระบวนการคิดทีละขั้นตอน:

คุณมีลูกบอล 3 สี (แดง, น้ำเงิน, เขียว) ถ้าคุณสุ่มหยิบลูกบอล 2 ลูกจากทั้งหมด ความน่าจะเป็นที่จะได้ลูกบอลสีแดงและน้ำเงินพร้อมกันคือเท่าไร?"

การตอบของ AI:
1. ระบุจำนวนลูกบอลแต่ละสี: สีแดง 1 ลูก, สีน้ำเงิน 1 ลูก, สีเขียว 1 ลูก
2. คำนวณจำนวนวิธีการเลือกหยิบ 2 ลูกจาก 3 ลูกทั้งหมด: C(3,2) = 3 วิธี
3. คำนวณจำนวนวิธีการเลือกหยิบสีแดงและสีน้ำเงินพร้อมกัน: 1 วิธี (สีแดง 1 ลูก และสีน้ำเงิน 1 ลูก)
4. ความน่าจะเป็น = จำนวนวิธีที่ตรงตามเงื่อนไข / จำนวนวิธีทั้งหมด = 1/3
5. คำตอบ: ความน่าจะเป็นคือ 1/3

ความสำคัญของ Chain of Thought ต่อการเขียน Prompt

1. เพิ่มความแม่นยำของคำตอบ: CoT ช่วยให้ AI คิดอย่างมีโครงสร้างและลดโอกาสการให้คำตอบผิดพลาด โดยเฉพาะในปัญหาที่ซับซ้อน
2. จัดการคำถามที่ซับซ้อน: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลหลายมิติพร้อมกัน และตอบสนองต่อโจทย์ที่มีเงื่อนไขซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. โปร่งใสและตรวจสอบได้: CoT ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจกระบวนการคิดของ AI และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ในแต่ละขั้นตอนได้
4. ช่วยพัฒนาทักษะการเขียน Prompt: หลักการ CoT ไม่เพียงช่วย AI ทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้ผู้เขียน Prompt มีโครงสร้างการเขียนที่ชัดเจนและตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้น

แนวทางการนำ Chain of Thought ไปใช้

1. ระบุคำถามให้ชัดเจน: การเขียน Prompt ควรระบุคำถามที่มีรายละเอียดและเจาะจง เช่น การขอให้ AI อธิบายขั้นตอนการคิด
2. กระตุ้นให้ AI อธิบายกระบวนการคิด: ใช้คำสั่งใน Prompt เช่น "กรุณาอธิบายทีละขั้นตอน" หรือ "แสดงลำดับการคำนวณ"
3. ทดลองและปรับปรุง: ทดสอบ Prompt หลายรูปแบบเพื่อดูว่าผลลัพธ์ที่ได้ตรงกับความต้องการหรือไม่ และปรับแก้ให้เหมาะสม

สรุป

หลักการ Chain of Thought เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา Prompt ที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ AI ตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ จัดการปัญหาที่ซับซ้อน หรือช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการวิเคราะห์ข้อมูล การนำ CoT มาใช้ในงานต่าง ๆ จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ AI ในองค์กรและส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเขียน Prompt ให้กับพนักงานในยุคดิจิทัล

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงการใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพ ลองเริ่มต้นจากการเรียนรู้และประยุกต์ใช้หลักการ Chain of Thought ในการเขียน Prompt ตั้งแต่วันนี้!



Tuesday, December 19, 2023

การเขียน Prompt ปรับแต่งผลลัพธ์บน ChatGPT

สำหรับคุณผู้อ่านที่ใช้ ChatGPT เป็นประจำ ผู้เขียนเชื่อว่ามีโอกาสอยู่พอสมควรที่รู้สึกอยากจะให้ผลลัพธ์จาก ChatGPT แตกต่างออกไป เช่น เป็นทางการมากขึ้นหรือเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น มีความสร้างสรรค์ให้มากขึ้นความน่าเบื่อน้อยลง เป็นต้น ผู้เขียนขอแนะนำการเขียน Prompt เพื่อการนี้ ดังนี้ครับ

1) เขียน Prompt สั่งให้ ChatGPT ประเมินผลลัพธ์ด้วยคะแนน 1-10 เช่น 1 is very casual, 10 is formal seriously เป็นต้น

2) ดูคำตอบจาก ChatGPT เช่น 7/10

3) เขียน Prompt ให้ ChatGPT ปรับแต่งตามคะแนนที่ต้องการ เช่น 3/10

มาดูตัวอย่างทดลองกันจริง ๆ ดังนี้ครับ

- เขียน Prompt ให้ ChatGPT เขียน email เลื่อนการประชุมกับบริษัทที่ปรึกษาในสิงคโปร์


- เขียน Prompt ให้ ChatGPT ให้คะแนนความเป็นทางการ (formal) ของ email ได้คำตอบ 8/10

- ปรับแต่ง โดยเขียน Prompt ให้ ChatGPT เขียน Email ใหม่ในระดับคะแนน 3/10 (เพราะเราเป็นกันเอง)

สังเกตุความแตกต่างของ Email ก่อนหน้ากับหลังปรับแต่ง มีความ casual มากขึ้น ... คุณผู้อ่านลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะครับ

Most Viewed Last 30 Days