รู้น้อยเกินไป พูดมากเกินไป
“Some possess the rare gift of mistaking verbosity for wisdom.”
— วลีภาษาอังกฤษนี้แปลว่า “บางคนมีพรสวรรค์หายาก ที่เข้าใจผิดว่าการพูดมากคือปัญญา” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยในชีวิตจริง บางคนเข้าใจผิดอย่างมั่นใจ ว่าการพูดเยอะคือความฉลาด ทั้งที่จริงแล้วกลับเป็นการพรางตาความว่างเปล่าภายใน
เราทุกคนล้วนเคยมีประสบการณ์กับ “พวกพูดมาก” ในที่ประชุม ห้องสัมมนา หรือแม้กระทั่งในวงสนทนาธรรมดา ที่พยายามจะพูดให้ดูใหญ่โตเยอะแยะ แต่กลับจับใจความไม่ได้ คนที่พูดได้ต่อเนื่อง น้ำไหลไฟดับ มีศัพท์เทคนิคเต็มปากเต็มคำ แต่เมื่อฟังจนจบ เหมือนผ่านพายุคำพูดไปทั้งลูก โดยไม่เหลือสาระอะไรให้เก็บกลับมา
ที่น่าอึดอัดยิ่งกว่านั้นคือ คนประเภทนี้มักจะชอบ พูดทับ พูดต่อ หรือ แทรกแซง สิ่งที่คนอื่นเพิ่งพูดไว้ ทั้งที่ตนเองยังไม่เข้าใจประเด็นอย่างแท้จริง พวกเขามักเสริมความเห็นด้วยน้ำเสียงแบบคนรู้ดี ทั้งที่เนื้อหาที่เอ่ยออกมากลับกลวงโบ๋ ราวกับพยายามยึดพื้นที่ของการสนทนาด้วยความอวดรู้ มากกว่าการแบ่งปันความเข้าใจที่แท้จริง
คนพวกนี้มักเชื่อว่า ถ้าพูดให้ซับซ้อนพอ ถ้าใช้คำพูดยาวพอ ถ้าพูดนานพอ คนอื่นจะมองว่าตัวเองฉลาดเหนือชั้น
นี่คือความเข้าใจผิดที่อันตราย เพราะมันจะทำให้คนอื่นสับสน คนที่รู้จริงเบื่อหน่าย และยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เจ้าตัวเอง หลงคิดว่าตัวเองฉลาดจริง ทั้งที่ว่างเปล่าอย่างน่าเศร้า
ต่างจากคนที่มีวุฒิภาวะทางปัญญา พวกเขาไม่ได้พูดเพื่ออวด แต่พูดเพื่อเชื่อมโยง ไม่พยายามยึดพื้นที่สนทนา แต่ยินดีแบ่งพื้นที่ให้ความเห็นของผู้อื่น แม้จะพูดน้อย… แต่ ทุกถ้อยคำกลับหนักแน่น
จงอย่าหลงเชื่อว่าคนที่พูดมากคือผู้มีปัญญา เพราะบ่อยครั้งสิ่งที่พรั่งพรูออกมา ไม่ได้สะท้อนความลึกซึ้งของความคิด แต่เป็นเพียงม่านเสียงที่บดบังความตื้นเขินภายใน
เพราะสุดท้าย
"เสียงที่ดังที่สุด... อาจมาจากคนที่ว่างเปล่าที่สุด"
Comments
Post a Comment