บทเรียนจากผลตรวจสุขภาพประจำปี: เมื่อเลือดของผู้เขียนเริ่มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่ผู้เขียนทำมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำตามกิจกรรมประจำปีของบริษัท แต่เพราะผู้เขียนอยากรู้จักร่างกายของตัวเองให้ดีขึ้น และไม่ปล่อยให้สิ่งผิดปกติสะสมอยู่แบบเงียบ ๆ

ปีนี้ ผู้เขียนเจอกับประเด็นหนึ่งในผลเลือดที่สะดุดตา: "เลือดข้นเล็กน้อย"

อ่านแล้วอาจรู้สึกไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ได้แสดงอาการอะไรเลย แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเรื่องสุขภาพไม่มีคำว่าเล็กน้อย ถ้ามันเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด ผู้เขียนจึงเริ่มศึกษาลึกขึ้น และเขียนบทความนี้ไว้ เผื่อใครที่เจอผลเลือดคล้าย ๆ กันจะได้มีข้อมูลประกอบการดูแลตัวเอง


ผลเลือดของผู้เขียนที่น่าสนใจในช่วง 3 ปีล่าสุด

ปี พ.ศ. RBC (ล้านเซลล์/µL) Hb (g/dL) Hct (%)
2566 4.92 15.4 47.0
2567 5.56 16.5 50.0
2568 6.13 ⚠️ 17.8 ⚠️ 52.6 ⚠️

ค่าทั้งสามตัวนี้บ่งบอกถึงปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย รวมถึงความเข้มข้นของฮีโมโกลบินและสัดส่วนเม็ดเลือดในพลาสมา ซึ่งถ้าสูงเกินไปอาจทำให้เลือดหนืดขึ้น ส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด

สิ่งที่ผู้เขียนพบคือค่าทั้ง RBC, Hb และ Hct ของผู้เขียน ในช่วง 3 ปีนี้ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี จนถึงระดับที่เกินเกณฑ์ปกติในปี 2568 ซึ่งแม้จะยังไม่ใช่ภาวะเลือดข้นระดับที่ต้องรักษาแบบโรค แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ต้องระวัง


ภาวะเลือดข้น: ไม่ใช่แค่เรื่องของโรค

ภาวะเลือดข้น (Polycythemia) มีอยู่สองกลุ่มใหญ่:

  1. แบบเป็นโรค (Polycythemia vera) – เกี่ยวกับความผิดปกติของไขกระดูก

  2. แบบเกิดจากพฤติกรรมหรือสภาวะชั่วคราว (Secondary/Relative Polycythemia)

ผู้เขียนจัดอยู่ในกลุ่มหลัง ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น:

  • การออกกำลังกายหนัก (โดยเฉพาะวิ่งและเวท) *ผู้เขียนเป็นนักวิ่งระยะไกลและเข้ายิมเล่นเวทเป็นประจำ ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงมากขึ้นกว่าปกติเพื่อส่งผ่าน อ๊อกซิเจน ระหว่างที่ใช้แรงมาก

  • ดื่มน้ำน้อย ทำให้เลือดข้นขึ้นชั่วคราว *คืนก่อนวันตรวจ ผู้เขียนไม่จิบน้ำเลยเกือบ 10 ชม.เต็ม

  • ใช้อาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กหรือวิตามินบีมากเกินไป 

ในกรณีของผู้เขียน คิดว่าส่วนผสมของการวิ่งสม่ำเสมอ การเล่นเวทแบบจริงจัง และการดื่มน้ำไม่พอในบางวันน่าจะเป็นตัวกระตุ้นหลัก


ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อเลือดเริ่มข้นเกินเกณฑ์

ผู้เขียนรวบรวมแนวทางที่ค้นคว้าจากบทความด้านสุขภาพ รวมถึงทดลองทำเอง แล้วพบว่าวิธีที่ได้ผลดีในทางป้องกัน ได้แก่:

  1. ☑️ ดื่มน้ำให้พอ – อย่างน้อย 2.5–3 ลิตร/วัน โดยเฉพาะวันออกกำลังกาย

  2. ☑️ ไม่ตรวจเลือดหลังออกกำลังหนัก – รอให้ร่างกายฟื้นตัว 24–48 ชม.

  3. ☑️ ลดเวย์โปรตีนหรืออาหารเสริมที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง *ปกติผู้เขียนกินเวย์ราว 3 scoops ต่อวันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเสริมการเล่นเวท

  4. ☑️ ไม่อดนอน และลดคาเฟอีน – ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด

  5. ☑️ กินอาหารที่ช่วยลดความหนืดของเลือด เช่น บีทรูท, กระเทียม, ผักใบเขียว


ไม่รอให้มีอาการ ถึงจะลงมือดูแลตัวเอง

สิ่งที่ผลเลือดจากการตรวจร่างกายปีนี้สอนผู้เขียนคือ “ร่างกายเตือนเราตลอดเวลา” แค่เราต้องใส่ใจรับฟัง ถึงแม้จะยังไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ค่าเลือดที่เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นสิ่งที่บอกว่า ควรดูแลตัวเองให้มากขึ้นอีกนิด ทั้งการพักผ่อน น้ำ และโภชนาการ

ท่านใดที่ตรวจสุขภาพแล้วเจอคำว่า "เลือดข้นเล็กน้อย" อย่าตกใจครับ แต่อย่าละเลยเช่นกัน ลองฟังร่างกายให้ดี แล้วค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ผู้เขียนเชื่อว่า เราจะย้อนกลับมาอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิมได้ โดยไม่ต้องใช้ยาเลย

Comments

Popular Posts of Last 30 days

Chiaroscuro — แสงและเงาที่เล่าเรื่องได้ลึกกว่าคำพูด

รู้น้อยเกินไป พูดมากเกินไป