Recovery Run การวิ่งเพื่อฟื้นตัวที่นักวิ่งไม่ควรมองข้าม
ในโลกของการฝึกซ้อม หลายคนมักให้ความสำคัญกับ “วันหนัก” อย่างการซ้อม Interval, Tempo หรือ Long Run เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังพัฒนาอย่างเห็นผล แต่ในความเป็นจริงแล้ว “วันที่เราฟื้นตัว” ต่างหาก...คือวันที่ร่างกายสร้างความแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ
Recovery Run คืออะไร?
Recovery Run คือการ “วิ่งเบา” ที่มีความเข้มข้นต่ำมาก จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อพัฒนาความเร็วหรือเพิ่มความอึด แต่เพื่อ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการฝึกหนักในวันก่อนหน้า
มันคือการขยับร่างกายในจังหวะสบาย ๆ ให้หัวใจเต้นเพียง 60–70% ของอัตราการเต้นสูงสุด (HRmax) และให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนมากขึ้น เพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลดของเสียอย่างกรดแลกติก และทำให้กล้ามเนื้อ “หายล้า” ได้เร็วขึ้น
ลักษณะของการวิ่งแบบ Recovery
รายการ | คำอธิบาย |
---|---|
จุดประสงค์หลัก | กระตุ้นการฟื้นฟู ไม่ใช่การฝึกเพิ่มสมรรถนะ |
ความเร็ว (Pace) | ช้ากว่า Easy Run ประมาณ 30–60 วินาทีต่อกิโลเมตร |
อัตราการเต้นหัวใจ (HR) | อยู่ในโซน 1–2 (ประมาณ 60–70% HRmax) |
ความรู้สึกขณะวิ่ง | เบาสบาย พูดคุยได้โดยไม่หอบ |
ระยะทางที่เหมาะสม | 3–6 กิโลเมตร สำหรับนักวิ่งทั่วไป |
ช่วงเวลาที่เหมาะสม | วันหลังจากซ้อมหนัก หรือหลังแข่ง |
ทำไมการวิ่ง Recovery ถึงสำคัญ
-
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด – เพิ่มออกซิเจนและสารอาหารสู่กล้ามเนื้อ
-
ลดกรดแลกติก – ช่วยให้กล้ามเนื้อหายล้าเร็วขึ้น
-
รักษาความต่อเนื่องในการซ้อม – ไม่หยุดนิ่ง แต่ไม่เกินขีดจำกัด
-
พัฒนาระบบการหายใจและหัวใจในระดับพื้นฐาน
ลองคิดง่าย ๆ ว่า Recovery Run คือ “วันพักเชิงรุก” — คุณไม่ได้หยุด แต่คุณกำลังให้ร่างกายฟื้นตัวอย่างมีจังหวะที่ชาญฉลาด
ตัวอย่างการวิ่ง Recovery ที่เหมาะสม
โปรแกรมซ้อมจริงของผู้เขียน หากวันก่อนหน้าคือ Long Run ระยะ 10 กม. pace 6:30 นาที/กม.
วันถัดไปผู้เขียนจะ Recovery Run เบา ๆ ประมาณ 3–5 กม. ที่ pace 7:45–8:15 นาที/กม.
ให้รู้สึกว่า “เบา แต่ยังเคลื่อนไหว” และหัวใจอยู่ในโซน 1–2 ซึ่งจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นมากในวันถัดไป และสามารถกลับมาฝึกหนักได้อย่างมีพลัง
บทสรุป: วิ่งช้าไม่ใช่ถอยหลัง แต่คือ “การก้าวไปข้างหน้าอย่างฉลาด”
นักวิ่งหลายคนมักกลัวคำว่า “วิ่งช้า” แต่การฟื้นตัวคือส่วนหนึ่งของการเติบโตในระยะยาว
Recovery Run จึงไม่ใช่การเสียเวลา แต่คือช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังสร้างคุณภาพใหม่แบบเงียบ ๆ
จงให้ร่างกายได้ “พักแบบไม่หยุด”
เพราะในวันที่คุณวิ่งเบา ๆ นั่นแหละ...ร่างกายกำลังขอบคุณคุณอยู่เงียบ ๆ
ผู้เขียนเชื่อว่า ความเร็วไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง แต่ “สมดุล” ต่างหากคือหัวใจของการวิ่ง
Comments
Post a Comment